Category ข่าววันนี้

“โตโน่” เมินกระแสดราม่า ประกาศขอทำเพื่อ “หมอ-พยาบาล” วอนอย่าแบ่งพรรคแบ่งสีขอให้สามัคคีกัน ถามไม่ดีหรืออย่างไรถ้าคนหันมาช่วยเหลือสังคม ยืนยันไม่เคยคิดใช้ของฟรีปมอุโมงค์น้ำ แต่มหาวิทยาลัยใจดีช่วยสนับสนุนไม่คิดค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 20 เดือนตุลาคม นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักแสดงชื่อดัง เปิดเปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดกิจกรรม ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ประกอบด้วย โรงพยาบาลนครพนม แล้วก็ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อ OneMan And The River กำหนดระยะทางว่ายน้ำไปกลับประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างตัวเมืองนครพนม กับแขวง คำม่วน สปป.ลาว ในวันที่ 22 เดือนตุลาคมว่า

ล่าสุดวันนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพน้ำนับว่าไม่มีความกังวล แต่ไม่มีแผนในการฝึกซ้อมว่ายสนามจริง

เพราะเหตุว่ามั่นใจในสภาพร่างกาย พร้อมมาก ทั้งความฟิต แล้วก็สภาพจิตใจ ส่วนปัญหากรณีดราม่า หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นหลากหลายมุมมอง ตนขอน้อมรับทุกความความเห็น รวมทั้งความเห็นต่าง ถ้าหากตนถูกดราม่า แล้วเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับหมอ พยาบาล ของโรงพยาบาลต่างๆได้ ตนยินดี เพราะเหตุว่าหมอ พยาบาล ต้องทำงานทุกวันในการดูแลรักษาคนไข้ ตนเหนื่อยวันเดียว แต่ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม อยากที่จะให้ทุกคนรักกัน สามัคคีกัน หันมาช่วยเหลือสังคม ทำความดีเพื่อสังคม อยากถามว่า ไม่ดีหรืออย่างไรที่คนพวกเรามาร่วมทำความดี มารักสามัคคีกัน ทำเพื่อคุณประโยชน์

โตโน่ กล่าวว่า ต้องขอกราบขอบพระคุณมีหลายหน่วยงานให้การสนับสนุน รวม ถึงกรณีที่มีการทอดสอบร่างกายในอุโมงค์น้ำของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จนกลายเป็นกระแสดราม่า ว่าใช้ฟรี ทั้งที่ตนแล้วก็ทีมงานไม่เคยคิดจะใช้ของใครฟรี แล้วก็ไม่ใช้งบประมาณรัฐในการจัดกิจกรรม แต่ในเมื่อมีหน่วยงานต้องการสนับสนุนอนุเคราะห์ให้ใช้ทดสอบร่างกาย เพื่อความพร้อมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไม่ใช่เรื่องแปลก

ทั้งนี้ตนไม่นำมาเป็นอุปสรรคปัญหา เพราะเหตุว่าถามคืนว่าถ้าหากกลัวดราม่า อาจไม่ต้องทำอะไร การทำความดีไม่ต้องกลัวดราม่า เพราะเหตุว่าอาจมีทุกวันอยู่แล้ว สำคัญที่สุดต้องทำให้ถึงเป้าหมาย ต้องช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม รวมทั้ง โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

ส่วนจะมากน้อยแค่ไหน ขอแค่ได้ทำเพื่อคุณประโยชน์แก่สังคม

“ฝากทำความเข้าใจว่ากิจกรรมที่ผมจัดขึ้น ต้องการทำเพื่อแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย อย่าเอาการเมือง หรือแบ่งพรรคแบ่งสีมาเกี่ยวข้อง ใครจะเชียร์ใครผมไม่สนใจ เพราะโรงพยาบาล ไม่เคยเลือกว่าจะต้องรักษาใคร มีหน้าที่รักษาทุกคน ทุกพรรค ทุกฝ่ายทุกสี อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ มากกว่าการเอาสีเอาฝ่ายมาเป็นปัญหา อยากให้รักสามัคคีกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า ไม่ว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ขอเพียงผมได้ทำ นั่นคือความตั้งใจของผม ขอทำให้ดีที่สุด” โตโน่ กล่าว

เพื่อนบ้านแฉ แม่จับลูกหย่อนระเบียงชั้น 4 วีรกรรมโหดเพียบ ซ้อมลูกทุกคนเสมือนกระสอบทราย

วันที่ 17 ต.ค. 2565 เว็บไซต์ mirrormedia รายงานกรณีความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย แม่โหดจะผลักบุตรสาวตกจากชั้น 4 เพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์รีบถ่ายรูปหลักฐานแจ้งตำรวจ

“แม่!! อย่าตีหนู!” เพื่อนบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องก็เลยออกมาดูเหตุการณ์ ก่อนพบภาพที่น่าตกใจ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจับบุตรสาวของตนผูกติดกับระเบียงหอพักบนชั้น 4 ลำตัวท่อนบนของเด็กอยู่ด้านนอกระเบียงอย่างน่าหวาดเสียว รวมทั้งเป็นต้นเหตุของเสียงร้องตกใจอย่างสุดเสียง ที่พวกเขาได้ยิน

ชาวบ้านที่เห็นเหตุต่างตกใจ แต่ว่าเนื่องจากว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในหอพัก

ของครอบครัว พวกเขาก็เลยทำได้เพียงถ่ายภาพหลักฐาน พร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องจากพฤติกรรมของแม่จัดว่ามีความผิดฐานทารุณเด็ก เพียงไม่นานตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุ สามารถช่วยเด็กผู้หญิง รวมทั้งระงับการเกิดโศกนาฏกรรมได้ทันเวลา ก่อนพาแม่ของหญิงสาวไปซักถาม

ตามรายงานทราบว่า พ่อแม่ของเด็กผู้หญิงมีอาชีพค้าเร่ข้างถนน เธอมักทุบตีลูกทั้ง 3 คนเสมือนกระสอบทราย ครอบครัวนี้ย้ายมาตรงนี้ได้ราว ๆ กว่า 2 ปีแล้ว เพื่อนบ้านใกล้เคียงเคยได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทรวมทั้งเสียงเขวี้ยงของที่อยู่ในบ้าน อย่างไรก็ตาม ภายหลังสามีของเธอย้ายออกไป ผู้เป็นแม่ก็ได้ทำร้ายจิตใจรวมทั้งร่างกายของลูก ๆ มากขึ้น และยังเคยไล่ลูกออกจากบ้านบ่อยครั้ง ทำให้พวกเขาต้องออกมานอนบนถนนตอนดึก เพื่อนบ้านเคยแจ้งความกับสำนักงานสวัสดิการ แต่ว่าต่อจากนั้นเพียง 2 เดือน แม่ก็พาเด็ก ๆ กลับมาอีก

ถึงแม้เพื่อนบ้านจะพยายามตักเตือนแม่คนดังกล่าวไปหลายต่อหลายหน แต่ว่าเธอก็ยังทำเหมือนคนหูหนวกตาบอดไม่รับฟังอะไร ยังคงทำรุนแรงกับลูกเสมอเมื่อควบคุมอารมณ์ไม่ได้ กระทั่งเพื่อนบ้านรู้สึกท้อใจ ในตอนที่บุตรสาวคนโตสุดทนและต้องการหนีไปจากสิ่งที่ต้องพบ เธอถึงกับพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือ แต่ว่าเรื่องก็จบด้วยการที่เธอถูกแม่ทำร้ายอีกครั้งในเหตุการณ์คราวนี้

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงวันที่ 15 ต.ค. 2565 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

กำลังเป็นหัวข้อในติ๊กต๊อกเลยทีเดียว

สำหรับกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกนำคลิป “แอ๊ด คาราบาว” หรือ ยืนยง โอภากุล นักร้องเพื่อชีวิต ที่ซัดเดือดผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี กล่าวว่าโดนสั่งไม่ให้คาราบาวเล่นการแสดงดนตรีที่เมืองสุพรรณฯ ลั่นมึงรู้ไหมกูเป็นใคร เรียกขึ้นมาเคลียร์กลางคอนเสิร์ต

“มึงเป็นผู้ว่าฯ มึงคิดว่ามีอำนาจเหรอ ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ อยู่เปล่า ไม่ต้องเล่น (ให้วงหยุดเล่น) ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูเกิดที่นี่ กูตายที่นี่ แล้วมึงเป็นใคร ไม่ให้กูเล่นที่สุพรรณฯ คนกาญจน์ฯ ยังให้กูไปเล่นเลย ไอ้สัxว์ ส้นตีx คิดเหรอ มึงแค่เอาตัวรอด แล้วไม่คิดเหรอคนสุพรรณฯ จะเป็นยังไง เขาไม่ได้ดูคาราบาว (คนปรบมือ) มึงคิดว่ามึงเป็นผู้ว่าฯ มึงมีอำนาจเหรอ กูไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ แต่กูคือแอ๊ด คาราบาว กูไม่มีอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น แต่กูพูดความจริง นำเสนอความจริง กูทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ได้เป็นข้าราชการแบบพวกมึง ที่เลียกะโปxให้ได้ตำแหน่งและรักษาตำแหน่ง เลียกะโปxไปเรื่อยรักษาตำแหน่ง ไอ้สัxว์ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูเล่นไม่ได้แล้วเว้ย โมโห”

ต่อมา ก็มีอีกรายโพสต์คลิปที่เจ้าตัวใจเย็นลงแล้ว พร้อมเผยว่า ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ สุพรรณฯ เพียงแค่สอน อย่าลุแก่อำนาจ

“ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ โกรธเกลียดใคร แค่สอนให้น้องๆ ว่าสิ่งอะไรทำผิดพลาดไปแล้วก็แก้ไขซะ บ้านเมืองมีขื่อมีแป เข้ามาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าใช้แต่อำนาจ อย่าลุแต่อำนาจ เกรงใจชาวบ้านบ้างที่เกิดเป็นประชาชน คนจังหวัดสุพรรณฯ มาก่อนมึง ไม่ใช่มึงเป็นผู้ว่าแล้วใหญ่ คxย กูเกิดมาก่อนมึง อาบน้ำร้อนเมืองสุพรรณฯ มาก่อน กูส่งปิ่นโตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยก่อน จนพี่ชายกูเป็นผู้ว่าฯ จนน้องชายกูเป็นผู้ว่าฯ แล้วมึงไอ้เด็กเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ให้กูเข้าเมืองสุพรรณฯ มึงคิดยังไงวะเนี่ย แต่หลังจากนี้ไป จะอำนวยอวยพรให้มันจงเจริญต่อไป จะไม่ยึดติดกับมึงอีกต่อไปแล้ว จะสละให้มัน ปล่อยมันไปเถอะ ผมปล่อยมันไปแล้วนะครับ ผมปลดปล่อยแล้ว มีความสุขแล้ว นิพพานแล้ว”.

งานนี้ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แน่ชัดว่าศึกวิวาทะเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ แต่ก่อนหน้าที่จะมีหัวข้อดังกล่าว ได้มีติ๊กต๊อกรายหนึ่งโพสต์คลิปที่แอ๊ด คาราบาวร้องเพลง “หลวงพ่อคูณ” แต่แปลงเพลงตัวเองท่อนนึงว่า “ชั่วดีอยู่ในกะโหลก มาเขกโป๊กๆ จำไว้ให้ดี เข้ามาพวกรัฐมนตรี นายกฯ ตู่ตัวดี กูจะให้พร ไปนั่งอยู่ในสภา ไปให้เขาด่าจงพึงสังวร แขวนพระเป็นอุทาหรณ์ ประชาชนเดือดร้อน เขาจึงเดินขบวน”

การแข่งขันชิงชัย ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม อี ระหว่าง “ปีศางแดงดำ” เอซี มิลาน เปิดบ้านเจอกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่สนาม ซาน ซีโร่ คืนวันอังคารที่ 11 เดือนตุลาคม 2565

เริ่มเกมมา 18 นาที ทีมเยือนมาได้จุดลูกโทษจากจังหวะที่ ฟิคาโย่ โทโมรี่ ไปดึง เมสัน เมาท์ ในจุดโทษ ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามในทันที ก่อน จอร์จินโญ่ จะสังหารเข้าไปให้ เชลซี นำ 1-0

นาทีที่ 27 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีเสมอจากบอลเปิดยาวเข้าจุดโทษ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้เทกตัวโหม่งจ่อๆระยะเพียงแค่ 6 หลา แม้กระนั้นโดนบอลไม่ดีออกหลังอย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 34 ทีมเยือนต่อเกมได้สวย เมสัน เมาท์ จ่ายทะลุแนวรับให้ ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมย็อง วิ่งสอดเข้าจุดโทษก่อนยิงยัดเสาแรกเข้าไป เชลซี นำห่าง 2-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาทีที่ 46 เจ้าบ้านได้ลุ้นตีไข่แตก แซร์จินโญ่ เดสต์ ลากเข้าจุดโทษก่อนเปิดให้ ซานโดร โตนาลี่ วิ่งเติมมายิงแต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ออกมาบล็อกได้ทัน

นาทีที่ 60 “ปีศางแดงดำ” ที่ตัวน้อยกว่ายังเดินหน้าบุก ราฟาเอล เลเอา กระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดไปเสาสองถึง แซร์จินโญ่ เดสต์ ซัดข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม “สิงห์บลูส์” เชลซี บุกเอาชนะ มิลาน ที่เหลือ 10 ตัว ไปได้ 2-0 เก็บเพิ่มสามแต้ม นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มด้วยการมี 7 คะแนน

เวลาที่คนเราจะเดินทางด้วยเครื่องบิน ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินนั้น ก็จะต้องผ่านร้านรวงต่าง ๆ นานา

ถ้ากลับบ้านต่างจังหวัดก็จะต้องซื้อของฝากจากกรุงเทพฯ ติดมือไปฝากคนที่บ้านด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่คนทำกันเป็นปกติ จนกระทั่งมีเพจๆหนึ่งทำให้สะดุดใจคิดขึ้นมา เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 เฟซบุ๊ก ผู้บริโภค ได้โพสต์ตั้งประเด็นหนึ่งขึ้นมา สำหรับคนใช้บริการสนามบินดอนเมือง

จะมีร้านค้าขนมชื่อดังเจ้าหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องบ่อยครั้งที่สุด ทางเพจระบุว่า เรื่องนี้เป็นคำบอกเหล่าและเป็นความเห็นของผู้ที่เกี่ยวกับสนามบินดอนเมือง เพราะเหตุว่าร้านค้าขนมนี้ ถือเป็น “ของฝาก” จากกรุงเทพฯ ที่คนเมืองมักซื้อไปฝากที่บ้าน ถ้าวันไหนคิวสั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคิวยาวก็รอกันยาวๆบางคนรอจนลืมว่าใกล้เครื่องออกก็มี ทุกๆอย่างมีเหตุผลของมัน เพราะร้านค้านี้มีเพียงแค่ร้านค้าเดียวในสนามบิน

สำหรับความคิดเห็นชาวเน็ต บางคนก็มองว่าจริง เพราะเห็นกับตาว่าคนต่อคิวซื้อเยอะ บางคนผ่านร้านค้านี้ก็คิดจะซื้อติดมือเหมือนกัน แต่พอเห็นความยาวของแถวแล้ว ถอยดีกว่าก็มี สมแล้วที่เป็นสินค้า OTOP จากกรุงเทพฯ

ส่วนบางคนก็ยอมรับตรงๆว่า เคยตกเครื่องเพราะมัวแต่ต่อแถวซื้อขนมร้านค้านี้ ส่วนใครที่ซื้อได้ตอนที่เครื่องใกล้ออก พอซื้อเสร็จก็จะต้องรีบวิ่งไปขึ้นเครื่องบินอย่างไว แต่จะทำยังไงได้ เพราะของเขาถูกปากจริงๆ

Cr. ผู้บริโภค

GISTDA เปรียบเทียบพื้นที่น้ำท่วมไทยช่วงก.ย. 2554, 2564 และก็ 2565 พบว่าปริมาณน้ำท่วมขังในขณะนี้ยังห่างอยู่ 3 เท่าตัว

วันที่ 6 ต.ค. 2565 มีรายงานว่า GISTDA เปิดเผยข้อมูลภาพจากดาวเทียมแสดงสถานการณ์น้ำท่วมของก.ย.ปี 2554, 2564 และก็ 2565 พบว่าปี 2554 มีปริมาณน้ำท่วมขังทั่วประเทศ ปริมาณ 15,996,150 ไร่, ปี 2564 ปริมาณ 5,648,252 ไร่ และก็ในปี 2565 (ล่าสุด) เจอพื้นที่น้ำท่วมขังปริมาณ 5,331,739 ไร่ ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 พบว่าปริมาณน้ำท่วมขังในขณะนี้ยังห่างอยู่ 3 เท่าตัว

สถานการณ์น้ำในขณะนี้ หลายๆคนเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าจะท่วมหนักเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนหรือไม่ เหตุเพราะว่าด้วยปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสายก่อให้เกิดน้ำสะสมในหลายพื้นที่ ประกอบกับพายุโนรูที่เพิ่งแผลงฤทธิ์ไปสดๆร้อนๆก่อให้เกิดความเสียหายและก็น้ำท่วมในหลายพื้นที่

อีกทั้งปริมาณน้ำในลำน้ำและก็อ่างเก็บน้ำหลายแห่งเริ่มล้นแล้ว

ก่อให้เกิดน้ำท่วมมากเพิ่มขึ้น พื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลพวงทุกหนทุกแห่งสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ลุ่มน้ำชีและก็ที่ลุ่มน้ำมูลที่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น น้ำระบายไม่ทัน รอการระบาย สิ่งหนึ่งที่จะต้องเฝ้าระวัง คือปริมาณฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่จะทำให้น้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงพื้นที่จ.กรุงเทพฯและก็ปริมณฑล

ถ้าหากมองย้อนกลับไปในช่วงของปี 2554 และก็ปี 2564 ของก.ย. จะเห็นได้ว่าปี 2554 ประเทศไทยมีพื้นที่น้ำท่วมขังมากกว่าปี 2565 แต่ว่าทั้งนี้ปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นทำให้ฝนมาเร็วกว่าปี 2564

ส่องมวลน้ำรายภูมิภาค เปรียบเทียบระหว่างปีมหาอุทกภัย 2554 กับปีปัจจุบัน 2565

เดือนกันยายน 2554

ภาคเหนือ 350,015 ไร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,412,704 ไร่
ภาคกลาง 9,702,429 ไร่
ภาคตะวันออก 1,207,294 ไร่
ภาคตะวันตก 258,127 ไร่
ภาคใต้ 65,581 ไร่

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2022 รอบสอง (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วก็ ประเทศโปแลนด์ จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค. นี้

โดย “ทัพนักวอลเล่ย์บอลลูกยางสาวไทย” สามารถคว้าตั๋วผ่านเข้ารอบสองได้สำเร็จ ภายหลังจบอันดับ 2 ของกลุ่มบี ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับ สหรัฐฯ, เซอร์เบีย, เยอรมนี, แคนาดา นอกจากนี้ยังมี ตุรกี, ประเทศโปแลนด์ แล้วก็ สาธารณรัฐโดมินิกัน คู่แข่งที่เจอกันมาในรอบแรกอยู่ในกลุ่มด้วย

อย่างไรก็ดีจากกฎที่ทาง สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้ตั้งเอาไว้ว่า

ทีมที่เคยพบกันในรอบแรก จะไม่ต้องแข่งขันกันอีก โดยให้ยึดผลงานที่พบกันมาในรอบแรก ทำให้ ทีมสาวไทย จะได้ผลงานติดตัวเข้ามาในรอบนี้เป็นชนะ 2 แพ้ 1 มี 4 คะแนน (ชนะ ตุรกี 3-2 เซต, ชนะ สาธารณรัฐโดมินิกัน 3-2 เซต แล้วก็แพ้ ประเทศโปแลนด์ 0-3 เซต)

เท่ากับว่า “ทัพนักวอลเล่ย์บอลลูกยางสาวไทย” มีคะแนนเก็บมาจากรอบแรก รั้งอันดับ 4 ของตารางด้วย ผลงานชนะ 4 เกม แล้วก็มี 10 คะแนน เรียกได้ว่ามีโอกาสลุ้นผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปเช่นกัน

สำหรับ “นักวอลเล่ย์บอลลูกยางสาวไทย” มีโปรแกรมจะลงเล่นในรอบสอง พบกับคู่แข่งทั้งสิ้น 4 ทีม ประกอบด้วย สหรัฐฯ, เซอร์เบีย, เยอรมนี แล้วก็ แคนาดา ในของการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2022 ในช่วงระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค. นี้

ตำรวจเผย เด็กหญิงลูกครึ่งเดินเท้าไปสนามบิน ไม่พบถูกทำร้าย แต่พ่อเข้มงวด ถามลูกคำแรก ทำการบ้านหรือยัง? เด็กก็นำการบ้านขึ้นมาทำทันที

จากกรณีผู้ใช้ Tiktok ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะพบเจอเด็กหญิงชาวต่างชาติลูกครึ่งจีน-อเมริกัน อายุ 10 ปี เดินเท้าอยู่ข้างทาง และพยายามสื่อสาร ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ จนกระทั่งเด็กคนนี้ปลอดภัย ส่วนสาเหตุนั้น เด็กหญิงต้องการเดินทางจากที่พักย่านจอมเทียน ยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินไปพบแม่ที่เมืองจีน เพราะว่าคิดถึงแม่มาก

ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย.65 ภายหลังจากมีกระแสข่าวออกไปทั้งยังสื่อและโซเชียลช่องต่างๆมีผู้คนแล้วก็ชาวเน็ตตั้งขอสงสัยว่า เด็กหญิงอาจมีปัญหาทางบ้านหรือไม่ อีกทั้งเรื่องการทารุณกรรม หรือทำร้ายร่างกาย แล้วก็อื่นๆถึงขนาดต้องแอบหนีออกจากบ้านตามลำพัง

โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา

ว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวนั้นไม่ได้ปล่อยปละละเลยในประเด็นนี้ ภายหลังส่งตัวเด็กหญิงรายนี้คืนให้กับพ่อชาวอเมริกัน ทางตำรวจท่องเที่ยวได้ติดตามไปยังบ้านพักของเด็กหญิง เป็นโรงแรมย่านจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อสรุปอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้ไปพบพ่อชาวอเมริกัน พบว่า ไม่ค่อยให้การตอบรับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร ส่วนเด็กหญิงนั้นไปโรงเรียนปกติ

โดยจากการสอบถาม พนักงานโรงแรมหลายๆคน เผยว่า พ่อลูกชาวต่างชาติรายนี้ ได้พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ มากว่า 3 ปีแล้ว โดยเด็กหญิงลูกครึ่งได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อชาวอเมริกันเป็นคนไม่ค่อยพูดและออกจะเข้มงวดสำหรับกิจวัตรในทุกๆวัน เด็กหญิงจะลงมากรอกน้ำดื่มเวลาประมาน ตี4-ตี5 แล้วก็ทานอาหารเช้าพร้อมกับพ่อเวลาประมาน 6 โมงเช้า บางวันจะมีการปั่นจักรยานแล้วก็เดินออกกำลังกายบ้าง แล้วก็เด็กหญิงจะลงมาทำการบ้านที่หน้าบริเวณโถงข้างล่างโรงแรมอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนการกระทำที่น่าสงสัยหรือไม่ปกติ อย่างการทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรม ไม่เคยพบเห็นแต่อย่างใด เป็นพ่อลูกชาวต่างชาติทั่วไป แต่เพียงพ่อค่อนข้างจะมีระเบียบแล้วก็เข้มงวดเพียงเท่านั้น

ซึ่งข้อมูลนี้ ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬาจ.ชลบุรีได้พบเห็นขณะดูแลเด็กหญิงชาวต่างชาติ เมื่อพ่อชาวต่างชาติได้มารับตัวที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว ได้กล่าวคำแรกว่า ทำการบ้านรึยัง? แล้วเด็กหญิงได้ตอบรับโดยการนำการบ้านในกระเป๋าขึ้นมาทำอย่างตั้งใจ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความมีระเบียบแล้วก็เข้มงวดของผู้เป็นพ่อ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจะคอยติดตามเยี่ยมเยียนพ่อลูกชาวต่างชาติ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีความผิดปกติต่อไป

บริษัทเทคโนโลยีการบินรายย่อยของสหรัฐอเมริกา ทดสอบเครื่องบินพลังงานไฟฟ้า “อลิซ” ที่บินได้สูง 3,500 ฟุต

เป็นระยะเวลานาน 8 นาที ปูทางสู่การพัฒนาเครื่องบินโดยสารรวมทั้งขนส่งสินค้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 บริษัท “อาร์ลิงตัน” ผู้ผลิตเครื่องบินรายย่อยสัญชาติอเมริกัน ที่มีฐานการผลิตอยู่ในรัฐวอชิงตัน ของสหรัฐอเมริกา ได้กระทำการทดสอบสมรรถนะของเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าลำแรก ที่มีชื่อว่า “อลิซ” (Alice) โดยการทดสอบครั้งนี้ เครื่องบินได้กระทำการขึ้นบินที่ระดับความสูง 3,500 ฟุต เป็นระยะเวลานาน 8 นาที บริเวณท่าอากาศยานในเมืองโมเสสเลค รัฐวอชิงตัน

โดยการทดสอบบินครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของบริษัทอาร์ลิงตัน ในการพัฒนาเครื่องบินขนส่งผู้โดยสาร

รวมทั้งเครื่องบินขนส่งสินค้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในปี 2570 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า นายเกรกอรี ดาวิส ซีอีโอของบริษัทอาร์ลิงตันกล่าวว่า เป้าหมายของทางบริษัทคือสามารถพัฒนาเครื่องบินชาร์แบตเตอรี่ 1 ครั้งเป็นเวลา 35 นาทีแล้วสามารถบินได้ไกลเป็นระยะทางโดยประมาณ 250-400 กม.

ในระหว่างที่เป้าหมายการผลิตรวมทั้งส่งมอบเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าลำแรกในปี 2570 จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ในระหว่างที่ในอีก 3 ปีข้างหน้า ทางบริษัทจะผลิตเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าออกมาอีก 2 รุ่น เพื่อส่งให้ทางสำนักงานการบินพลเรือนรับรอง.